เรื่องซื้อของเนี่ยไว้ใจผมได้ และถ้ายิ่งเป็นเรื่องบ้านและคอนโด เพื่อนก็มักจะชวนผมไปดูไปซื้ออยู่บ่อย ๆอารมณ์แบบว่า เหมือนเราจะรวยไปซื้อแต่เราก็ไม่ได้ซื้อ 55 ช่วงนี้ผมก็หาคอนโดให้เพื่อนอยู่ วันนี้ผมไปดูคอนโดกับเพื่อน ชื่อว่า Ideo mobi sukhumvit eastpoint ซึ่งอยู่แถวบางนา เมื่อก่อนพอบอกว่าบางนาก็คิดว่าไกลใช่ไหม แต่สมัยนี้คือมีรถไฟฟ้า BTS ทุกอย่างคือใกล้ไปหมด
สำหรับแบรนด์ ideo เป็นของ บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) โดยแบรนด์ Ideo mobi มีแนวคิดว่า FUTURE – NATURE ที่สอดแทรกองค์ประกอบธรรมชาติ และเทคโนโลยีเข้าด้วยกัน ทั้งดีไซน์และสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ เพื่อขยายมิติแห่งการอยู่อาศัยของคุณให้สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น <– อันนี้ Copy คำเขามาเลยนะ
แต่มาดูกันดีกว่าว่าจริงอย่างที่บอกไหม หลังจากที่ชมโครงการผมก็จะเล่าสรุปให้เพื่อนฟัง แต่คิดว่าน่าจะมีประโยชน์กับทุก ๆ คนเผื่อมีเงินอยากซื้อบ้าง ผมสรุปตามความเป็นจริงตามมุมมอง คนที่เคยเรียนสถาปัตย์ แต่ไม่ได้ประกอบอาชีพเป็นสถาปนิก ให้ทุกคนได้อ่านดังนี้
รูปลักษณ์อาคาร
ดูไม่แข็งทื่อ มีดีไซน์ที่นำสมัยมีเอกลักษณ์ ถ้าดูจากโมเดลจะเป็นว่าตำแหน่งการวางช่องแสงจะสลับไปมา ซึ่งการออกแบบ แบบนี้ใช้ต้นทุนที่สูงกว่าปกติ เพราะองค์ประกอบมันดูเป็นอิสระ เส้นสายที่ใช้มีความโค้งมนแบบธรรมชาติ มองไปมองมาก็เหมือนอาคารนี้มาจากต่างดาว คือบอกใครว่าอยู่อาคารนี้เราจะดูแพงทันที
มันไม่ได้สวยแค่โมเดลอย่างเดียวพอมาเจอของจริงตอนเกือบจะเสร็จแล้วมันก็สวยเหมือนกัน มองจากข้างล่างก็ดูสวยครับ
ตำแหน่งของโครงการ
โครงการตั้งอยู่บนถนนสุขุมวิท อยู่ใกล้ ๆ กับไบเทคบางนาและสถานีรถไฟฟ้า BTS บางนา ทำให้การเดินทาง ค่อนข้างสะดวก
จากสถานีรถไฟฟ้า BTS บางนา แค่ 250 เมตรก็ถึงแล้ว แถมทางเท้าก็กว้างมากเดินไม่เบียดแน่นอน ความสะดวกในการเข้าใจกลางเมือง ถ้าเป็น BTS สถานีอโศก 9 สถานี ถ้าเป็น BTS สถานีสยาม 13 สถานี
แต่ถ้าขับรถก็จะใกล้ ๆ กับ จุดขึ้นลงทางด่วนบูรพาวิถี ห่าง 3.6 กม. เฉลิมมหานคร ห่าง 1.4 กม. ซึ่งเป็นถนนที่สามารถจะขับรถเข้าใจกลางเมืองได้สะดวก หรือจะขับรถไปสนามบินสุวรรณภูมิก็ไม่ไกลนัก ส่วนการเดินทางขับรถไปเที่ยวก็แสนสบาย ขึ้นบูรพาวิถีไปเที่ยวทะเลตะวันออก หรือจะลงไปทางด้านใต้ไปเที่ยวสมุทรปราการก็สบาย หรือจะขับรถไปทางถนนกาญจนาภิเษกก็สามารถตัดไปยังที่เที่ยวฝั่งตะวันตก ได้ ถือว่ามีความสะดวกมาก เชื่อมโยงไปยังจุดถนนสำคัญได้สบาย ๆ
ทิศทางการวางผังตึก
โครงการเป็นรูปแบบหน้ากว้าง ทอดยาวจากทิศเหนือสู่ทิศใต้ อาคารจะเป็นรูป Three wing 3 ปีก 2 อาคาร ซึ่งเป็นการออกแบบที่หลีกเลี่ยงมุมบล๊อกสายตาที่จะเกิดขึ้น สำหรับทิศที่น่าจะดีที่สุดในมุมองของผมคืออาคารฝั่งทางทิศตะวันออกน่าจะเป็นทำเลที่ดีที่สุดในการอยู่อาศัย เพราะแดดจะร้อนในตอนครึ่งวันเช้า
ซึ่งตามปกติชีวิตเราไม่ได้อยู่ห้องในช่วงนั้น และตอนครึ่งวันบ่ายก็ร่มแล้ว ทำให้ห้องเย็น และความเสี่ยงในการถูก Block วิวในอนาคตก็มีน้อย เพราะเป็นบ้านคนเสียส่วนใหญ่ ถ้าจะมีก็คงเป็นอาคารไม่สูง
ส่วนทางทิศตะวันตกฝั่งตรงข้ามเป็นที่โล่งยังไม่มีอาคารสูง แต่มีพื้นที่ว่าง ๆ อยู่ ซึ่งมีโอกาสที่จะมีอาคารขึ้น แต่ผมว่าก็ไม่น่าจะสูงได้เท่าอาคารนี้ หรือถ้าสูงเท่า ก็ไม่น่าจะ Block วิว เพราะเป็นพื้นที่ผืนไม่ใหญ่มากนัก ส่วนทิศใต้เป็นทิศที่แดดอ้อมมาบ่อยมาก ส่วนเรื่องอาคารอื่นมาสร้าง block ก็น่าจะไม่มีเพราะตรงนั้นเป็น อาคาร Studio Centerpoint แล แต่ถ้าชอบชมวิวพระอาทิตย์ตกวิวธรรมชาติ+เมือง ก็เลือกฝั่งตะวันตกเลยครับ วิวสวยแน่นอน เห็นตึกเห็นแม่น้ำ แต่ถ้าจะให้เห็นคุ้งแม่น้ำเจ้าพระยา จะต้องอยู่ชั้น 25 ขึ้นไปนะครับ ถ้านับเรื่องวิว มันก็เกือบจะมองออกไปได้ทุกปีก มีแค่ปีกด้านในเท่านั้นที่จะ block มุมกันเอง
พื้นที่สีเขียว
มีพื้นที่สีเขียวเป็นสวนหน้าโครงการแบบกว้าง ๆ เป็นรูปตัว L แบบนี้ไปนั่งพักผ่อนได้ พร้อมต้นไม้ที่จะเตรียมเติบโตเป็นร่มเงา สวนนี้จะค่อนข้างเหมาะสำหรับการพักผ่อนในช่วงเช้าเพราะอยู่ทางทิศตะวันตก ถ้าช่วงบ่ายถึงเย็นจะไม่ค่อยร่มนัก ต้องอาศัยเงาไม้ช่วย
สระว่ายน้ำ
สระว่ายน้ำเป็นรูปทรงแบบ Freeform ไม่ใช่สระตรงแข็ง ๆ โดยยาว 60 เมตร ตกแต่งด้วยบรรยากาศให้ดูเป็นธรรมชาติ มีแมกไม้และต้นไม้อยู่ริมขอบสระ สระจะมีเกาะอยู่ตรงกลางด้วย สามารถว่ายไปนั่งเล่นพักผ่อนได้ ส่วน Jacuzzi จะอยู่ระหว่างตึกอยู่มุมซอก กลางระหว่างตึก ซึ่งน่าจะแดดร่มตลอดเวลา
ผมว่าข้อดีของสระที่นี่คือถ่ายรูปสวยแน่นอน จะมีขอตินิดนึงตรงทางลงสระจะหายไป 1 แถบเพราะว่าพื้นที่นั้นจะเป็นห้องที่เป็น poolaccess คือห้องที่สามารถเปิดประตูรั้วก็สามารถลงสระได้เลย และที่นั่งพักผ่อนรอบสระจะมีอย่างจำกัด
สำหรับคนที่กังวลว่าจะมีเด็กแล้วดูแลไม่สะดวกไม่ต้องกังวล เพราะว่าสระเด็กจะอยู่ติดกับโซนทิศเหนือซึ่งจะอยู่ติดกับที่นั่งพักผ่อน และเป็นจุดที่น่าจะมีผู้คนสัญจรเยอะ ตรงนี้ก็น่าจะปลอดภัย
อีกข้อกังวลนึงคือถ้ามีต้นไม้ แน่นอนว่าโอกาสที่ใบไม้จะร่วงลงไปในสระก็จะมีสูง แต่ด้วยความเป็นคอนโดที่ใหญ่ขนาดนี้ ยังไงก็ต้องมีทีมบริหารนิติที่มีคุณภาพพอ ที่จะจัดการให้พนักงานดูแลสระให้ใสกิ้งอยู่เสมอ ด้วยอัตราค่าส่วนกลาง 50 บาท ต่อตารางเมตร น่าจะไม่บกพร่องในเรื่องแบบนี้แน่นอน ฉะนั้นน่าจะสบายใจได้ครับ
ห้องออกกำลังกาย
พื้นที่ยิม ที่นี้มีขนาดใหญ่พอ ๆ กับยิมที่เสียเงินเลยครับ รวมทั้งแพดานสูงไม่อึดอัดด้วย แต่ตอนที่ไปดูเขาบอกว่าเครื่องออกกำลังกายยังมาลงไม่ครบนะครับ
ซึ่งพื้นที่ขนาดนี้ มันง่ายต่อการเพิ่มเครื่องออกกำลังกายในอนาคตมากครับ ถ้าส่วนกลางมีเงินเหลือ ๆ ก็ซื้อมาตั้งเพิ่มได้อีก แต่เครื่องที่เอามาก็ดูไม่ไกกานะครับ ดูเป็นเครื่องเกรดที่ใช้ออกกำลังแบบสาธารณะ เพราะบางคอนโดจะเอาเครื่องเกรดที่ใช้ออกกำลังตามบ้านมาให้ ทำให้ไม่กี่ปีกพังแล้ว
ไม่ได้มีแค่ยิม แต่มีห้องโยคะหรือพื้นที่ไว้ทำกิจกรรมคาดิโอ้อย่างอื่นด้วย ถ้ารักการออกกำลังกาย มียิมมีสระว่ายน้ำ แค่นี้ก็จบแล้วครับ โดยยิมจะอยู่ที่ชั้น 5 ชั่นเดียวกับสระว่ายน้ำโดยจะอยู่ตึกทางทิศใต้ครับ
Co-Working space
ที่นี่มีพื้นที่ส่วนกลางไว้ให้นั่งทำงานด้วยนะ เบื่อ ๆ นั่งทำงานที่ห้อง ก็สามารถลงมานั่งทำงานที่ Co-Working space ได้
โดยจัดให้ถึง 2 ชั้น ตกแต่งสวยงามรวมทั้งมีที่นั่งแบบส่วนตัว ๆ แบบไม่ยุ่งกับใครด้วย นอกจากจะนั่งทำงาน นั่งอ่านหนังสือนั่งธรรมการบ้าน ดูซีรีย์ นัดเพื่อน ได้หมดแหละครับ มีพื้นที่แบบนี้บางทีนัดคนอื่นมาก็ไม่ต้องให้เขาขึ้นห้องไป ก็ดูเป็นส่วนตัวดีนะครับ
ส่วนต้อนรับ
นอกจาบันไดมุมตึกทางทิศเหนือที่สามารถเดินเชื่อมไปยัง Co-workingspace และสระว่ายน้ำ ที่นี่จะมีส่วนติดต่ออยู่บริเวณกลางตึก โดยหากถ้ามีใครมาส่งของก็จะมาผ่านตรงส่วนต้อนรับก่อนก่อน
สำหรับผู้ที่มี keycard เท่านั้นที่จะสามารถเข้าไปยังตึกได้ ส่วนพักคอยได้จัดที่นั่งไว้ทั้ง 2 ตึกในบรรยากาศแบบโรงแรมตกแต่งอย่างสวยงาม
Panoramic Lounge
ซึ่งเป็น Sky lounge ที่สามารถมองได้เกือบรอบทิศทาง ในมุมมองแบบ Panorama จะอยู่ชั้นบนสุดชั้น 32 ของอาคารฝั่งทิศเหนือ
โดย Panoramic Lounge สามารถมองออกไปได้ ตั้งแต่ทิศเหนืออ้อมไปทางทิศตะวันตก จนมาถึงทิศใต้ ทำให้จุดนี้เองเราสามารถชมพระอาทิตย์ตกดินยามเย็นได้แน่นอน
และที่ไม่ธรรมดาคือเราจะเห็นคุ้งน้ำเจ้าพระยาที่จุดนี้ด้วย ซึ่งถือเป็นจุดเด่นของที่นี่เลย ประดุจอยู่บนหอคอยชมเมือง พื้นที่ส่วนนี้รองรับคนน่าจะนั่งได้ราว 15-20 คน
ที่จอดรถ
อาคารมีที่จอดรถตามกฎหมาย ประมาณ 47.47% ซึ่งถ้าจอดซ้อนคันก็น่าจะได้มากกว่านี้อีก โดยที่จอดรถจะอยู่ในชั้น 1-4
โดยชั้นล่างเป็นที่จอดรถแบบ Hydraulics Auto Park ที่จอดรถซ้อนกัน 2 ชั้น ที่ติดตั้งมาให้แล้ว นิติไม่ต้องไปติดตั้งเพิ่มให้เสียเงินในอนาคต แต่ที่จอดรถ 2 ชั้นนั้นก็มีข้อจำกัดเรื่องหากต้องการนำรถคันบนออก ต้องเอารถคันล่างออกก่อน ซึ่งตรงนี้ทางนิติต้องหาวิธีการบริหารจัดการ รวมทั้งยังต้องมีค่าการบำรุงรักษาในอนาคตด้วย
โถงทางเดิน
โถงทางเดินตลอดทางจะมีช่องแสงอยู่เป็นระยะ ๆ ทั้งช่วยในการรับแสงและยังรับลมที่จะ Flow เขามาได้อีกด้วย ทำให้โถงไม่ดูน่ากลัว ทำให้สามารถใช้แสงจากภายนอกผสมแสงจากในอาคาร
ลิฟท์
แต่ละอาคารมีลิฟท์โดยสาร 4 ตัว และลิฟท์ขนของ 1 ตัว สำหรับลิฟท์โดยสารมีขนาดค่อนข้างกว้าง และมีตำแหน่งการกดในลิฟท์ 2 ด้าน ซึ่งสะดวกดีครับ
สถานที่ใกล้เคียง
จะอยู่คอนโดดีมีสาธารณูโภคส่วนกลางครบครัน เดินทางไปไหนมาไหนง่าย สิ่งหนึ่งที่สำคัญในการเลือกคอนโดคือ มันต้องไปไหนมาไหนง่าย ไม่ใช่ว่า รอบ ๆ ไม่มีอะไรกินเลย จะไปไหนมาไหนแต่ละทีก็ต้องไปซะไกล เรามาดูรอบ ๆ ว่ามีอะไรเข้ากับ LifeStyle อะไรบ้าง อย่างแรกเลยที่ชอบมากคือ ใกล้ไบเทคมากห่างเพียง 1.4 กม.ซึ่งที่นี่มีงานบ่อยเหมือนเราได้เดินห้างที่มันเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาได้เรื่อย ๆ ได้ซิ้อของดีของถูกบ่อย ๆ แน่นอน มันดีซะยิ่งกว่าดี ถ้าอยากซื้อของในชีวิตประจำวัน นั่งรถไฟฟ้าไป 1 สถานีก็ถึง สถานีสำโรง ซึ่งเป็นที่ตั้งทั้งห้างและตลาดมีของกินมากมาย แบบนี้ไม่มีอดแน่นอน หรือขับรถไปหน่อยก็ไม่ไกลกับเซนทรัลบางนาซึ่งห่างออกไป 6.8 กม. หรือจะไปซื้ของ Ikea ที่ เมกาบางนา ขับรถไปแค่ 9.8 กม. หรือถ้าไม่อยากไปไหนไกล เดินวกมาแถวถนนลาซาล ก็จะมีร้านอาหารต่าง ๆ และตลาดเล็ก ๆ สรุปคือเรื่องของกินผมว่าไม่ขาดแน่นอน
และในอนาคตอันใกล้ แบงค็อกมอลล์ สร้างเสร็จ ห่างจากโครงการเพียง 1.9 กม. โดยจะเป็นศูนย์การค้าจะมีขนาดใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และสนามกีฬาในร่มจะมีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ซึ่งแน่นอนว่าที่นี่จะรวมอะไรที่สุด ๆไว้มากมาย คือฟังดูทำเลแล้วน่าขนลุกมากครับ สถานที่ใกล้เคียงนี้ครบครันมาก
รูปแบบห้อง
นี่ที่กล่าวมาคือ สาธารณูปโภคส่วนกลาง ประดุจว่านีคือโรงแรม ทำเล และสถานที่ใกล้เคียง ที่จัดเต็มมาก แถวนี้จะไม่ดูเป็นชานเมืองอีกต่อไป แต่จะเป็นอีก 1 ศูนย์กลางของเมือง ที่รองรับการเติมโตในอนาคต ต่อมาผมขอพามาชมห้องกันบ้าง โดยห้องจะมี 5 Type หลัก ๆ คือ
- Studio ขนาด 26 ตร.ม.
- 1 Bed ขนาด 36 ตร.ม.
- 2 Bed 1 Bath ขนาด 54 ตร.ม.
- 2 Bed 2 Bath ขนาด 56 ตร.ม.
- Duplex 1 Bed ขนาด 50 ตร.ม.
โดยขนาดอาจจะสวิงตามรูปแบบของห้องนะครับ เนื่องจากที่นี่เขาออกแบบค่อนข้างฟรีฟอร์ม ทำให้ห้องจะมีพื้นที่แตกต่างกันบ้าง ถ้าจะเอามาเรียง type กัน มันก็จะเยอะกว่านี้ครับ
ผมขอแจ้งสิ่งที่โครงการจะให้เหมือนกันทุกห้องก่อนนะครับ จะได้ไม่ต้องอธิบายซ้ำ
1. ติดเครื่อปรับอาหาศให้แล้วทุกยูนิต ไม่ต้องติดเองก็สะดวกดี
2. เคาเตอร์ครัว เตาเครื่องดูดควันและตำแหน่งวางเครื่องซักผ้ามีเตรียมให้แล้ว
3. Digital door lock ก็มีให้ ปลอดภัย 2 ชั้น ทั้ง Keycard และ keycode
4. มีการเดินสาย internet รอไว้อยู่แล้ว ปลั๊กไฟ แต่ละห้องค่อนข้างมีเพียงพอ
คราวนี้มาถึงห้องแต่ละแบบกัน บอกไว้ก่อนนะครับ ห้องจะมีรูปแบบแตกต่างกันไปบ้าง ไม่ได้เปะ ๆ แบบที่ผมบอกทุกห้อง
Studio Type ราคา เริ่มต้นที่ 2.59 ลบ.
มาเริ่มห้องแรกกันเป็นห้องที่ราคาย่อมที่สุด ห้องแบบ Studio ซึ่งเป็นห้องทรงสี่เหลียมตามสมัยนิยม แต่ไม่มีประตูกั้นระหว่างห้องนอนกับส่วนอื่นของของ ห้องขนาด 26 ตร.ม. กลายเป็นมาตรฐานใหม่ของห้อง Studio สมัยนี้
เมื่อเข้าไปภายในห้องจะเป็นโซนดูทีวีและโต๊ะอาหาร เดินไม่กี่ก้าวก็จะถึงเตียงนอนเลย ถ้าจะรักห้องนี้ เตียง 5 ฟุต คือคำตอบที่ดีครับ เพราะว่าถ้าจัดเตียง 6 ฟุตมา รับรองว่าเบียดกันแน่นอนครับ ส่วนตู้เสื้อผ้านั้นจะวางไว้ที่ปลายเตียง
ด้านข้างก็จะเป็นห้องครัว โดยห้องน้ำจะต้องผ่านห้องครัวก่อนและเป็นระเบียง เนื่องจากพื้นที่ย่อม ๆ ที่นี่ก็ดีนะ ประตูระเบียงทำเป็นแบบบานเลื่อน 3 ช่วง ทำให้สามารถเปิดออกระเบียงได้กว้างขึ้น สำหรับระเบียงที่นี่ไม่อนุญาตให้วางเครื่องซักผ้านะครับ เพราะว่าเขาไม่ได้มีระบบท่อเตรียมไว้ และเพื่อป้องกันกรณีน้ำรั่วซึม แต่เขาจะมีจุดวางเครื่องซักผ้าเตรียมไว้ให้ และมันเป็นไฟท์บังคับว่าคุณคงต้องใช้เครื่องซักผ้าฝาหน้าครับ
ความเห็นของผมคือห้องนี้ถ้ารักจะอยู่คือต้องเป็นคนไม่ช่างเก็บของต้องเป็นคนจัดบ้านได้เรียบร้อย และควรจะ Build-in เฟอร์นิเจอร์ครับ ไม่อย่างงั้นจะมีปัญหาเรื่องการวางแน่ ๆ ตำแหน่งการวางโซฟานั้น ขาจะติดกับการเปิดประตู เพราะประตูจะเปิดเข้าด้านใน
1 Bedroom type เริ่มต้นที่ 3.59 ลบ.
เป็นห้องที่มีห้องนอนแยก 1 ห้องและเป็นส่วนพักผ่อน ผมว่าห้องนี้ตอบโจทย์การอยู่อาศัยมาก ๆ มันพอดี และน่าจะมีความสุข ในการอยู่อาศัย เพราะบริเวณต่าง ๆ ถูกจัดสัดส่วนได้อย่างพอดีลงตัว ขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่จนเกินไป เปิดห้องเข้ามาจะเจอครัวก่อน ซึ่งจะแบ่งเป็น 2 โซนคือโซนที่วางตู้เย็น และโซนเคาเตอร์ครัวและตรงไปเป็นโถงกลางซึ่งสามารถจัดฟังชั่นห้องรับแขกหรือโซนทานอาหารได้ และดีกว่านั้นคือ สามารถเปิดหน้าต่างมองไปด้านนอกได้ นี่เป็นจุดเด่นของคอนโดแนวหน้ากว้างครับ ซึ่งบางที่ห้องส่วนพักผ่อนแสงจากธรรมชาติเข้าไม่ถึง ตู้เสื้อผ้าเป็นแบบ Walk In-closetแบ่งเป็น 2 ฝั่ง ซึ่งถ้าเป็นห้องเปล่า เขาจะทิ้งพื้นที่ให้เราเลือกตกแต่งเองครับ
ส่วนห้องน้ำที่นี่จะเป็นห้องน้ำที่มีอ่างอาบน้ำเพิ่มมาด้วย และยังมีที่สำหรับยืนอาบ อันนี้ดีนะ เพราะบางทีพอบอกมีอ่างอาบน้ำมาให้ ที่ยืนอาบไม่มีให้ เราต้องไปยืนอาบในอ่างอาบน้ำ มันก็ดูตลก ๆ ดี สำหรับห้องอาบน้ำก็จะมีความ sexy นิด ๆ เพราะเป็นกระจก ทำให้สามารถมองวิวด้านนอกได้ด้วย ถ้าเปิดม่าน หรือจะเปิดม่านอีกชั้นที่ห้องนอน เราก็จะได้อาบน้ำไป มองฟ้ามองวิวไปด้วยได้ โรแมนติกไหมละ
และไม่ต้องกลัวว่าแขกเห็นนะครับ เพราะโซนนี้จะมีประตูกั้นไม่ให้เขาห้องนอนอยู่แล้ว แต่มีข้อจำกัดคือ ถ้าแขกจะมาใช้ห้องน้ำ จะต้องเดินผ่านเข้าไปห้องนอนก่อน
ห้องที่ไปถ่ายนั้นเป็นห้องเปล่าไม่ได้ตกแต่ง ถ้าอยากดูแบบตกแต่งแล้วสามารถชม VR tour ได้จากด้านล่างนี้
2Bedroom 1 Bath type เริ่มต้นที่ 4.9 ลบ.
เป็นห้องที่เหมาะสำหรับครอบครัวอยู่ได้ 4 คน แต่ว่ามีห้องน้ำเดียวนะ การมีห้องน้ำเดียวทำให้ช่วยประหยัดพื้นที่ไปได้เยอะ เอาพื้นที่ไปทำอย่างอื่นได้ประโยชน์กว่า เพราะห้องน้ำวัน ๆ นึงเราก็ใช้ไม่กี่ชั่วโมงเอง แต่ข้อเสียก็มีเหมือนกัน นึกภาพตอนเช้าจะต้องออกไปทำงานถ้าเกิดทั้งลูกทั้งพ่อและแม่ จะต้องอาบน้ำกันตามลำดับ ก็น่าจะใช้เวลานานอยู่นะ
เมื่อเข้าห้องมาตำแหน่งของตู้และครัวจะอยู่ฝั่งเดียวกัน อาจจะดูอึดอัด แต่ผมว่าเวลาใช้งานจริง ๆ ตูเย็นน่าจะถูกย้ายไปอยู่ใกล้ ๆ กับที่รับประทานอาหาร หรืออาจจะย้ายไปตรงมุมของครัวอีกด้านก็ได้ ที่รับประทานอาหารพื้นที่ของห้องนี้จะค่อนข้างมาก พาเพื่อนมา party กินข้าวได้สบายๆ
ส่วนห้องนั่งเล่นพื้นที่เยอะทีเดียว ซึ่งตลอดแนวของห้องรับประทานอาหารจนถึงห้องนั่งเล่น เป็นช่องแสงทำให้แสงธรรมชาติเข้ามาได้แถมยังเปิดรับลมได้ ซึ่งห้องนี้เมื่อเปิดหน้าต่างสามารถทำให้เกิดลม Flow ได้ จากระเบียงไปยังส่วนห้องนั่งเล่นจุดนี้เป็นจุดเด่นพิเศษมากกว่าห้องอื่น ๆ ครับ เพราะมีช่องลมมากกว่า 1 ทิศ ตำแหน่งของห้องทรงนี้จึงจะอยู่ตามมุมของอาคารครับ สิ่งที่จะต้องแลกมาคือ การมีทิศ 2 ทิศ นั้นเท่ากับโอกาศที่จะสะสมความร้อนหรือแดดส่องก็จะสูงเช่นกัน ห้องนี้จึงใช้วิธีการออกแบบระเบียงยื่นออกไปช่วยบังแสงได้ส่วนหนึ่งครับ
2 Bedroom 2 Bath type เริ่มต้นที่ 5.9 ลบ.
ห้องนี้ผมเห็นห้องแบบ Fully finish ห้องคืออย่างกับบ้านเลยครับ ความสมบูรณ์อยู่ที่มีห้องน้ำถึง 2 ห้อง โดยห้องน้ำของห้องนอนที่ 1 จะมีทั้งอ่างอาบน้ำและที่ยืนอาบน้ำ ส่วนห้องน้ำของห้องนอนที่ 2 จะเป็นห้องน้ำที่เข้าได้ทั้งโซนห้องโถงกลางและห้องนอนที่ 2
เมื่อเดินเข้าประตูเข้ามาครัวจะอยู่ด้านนึง ตำแหน่งวางตู้เย็นจะอยู่อีกด้านหนึ่ง ด้านหน้าก็เป็นห้องโถงกลางที่สามารถปรับพื้นที่เป็นห้องรับแขกและห้องรับประทานอาหาร และที่ผมชอบคือมีระเบียงยาว ๆ ขนานกับห้องโถง ซึ่งทำให้สามารถมองเห็นวิวด้านนอกได้ แต่ที่ชอบมากกว่านั้นคือ การมีระเบียงยื่นออกไปมันสามารถช่วยบังแดดได้ ฉะนั้นการได้แสงแบบ in direct มาอันนี่ดีกว่าครับ เพราะไม่งั้นความร้อนจะเข้ามาด้วยคงไม่ดีแน่ ๆ
โดยห้องนอนจะอยู่แยกกันคนละฝั่ง และมีช่องแสงขนาดใหญ่ด้วยกันทั้งคู่ ซึ่งต่างจากห้อง 2 Bed 1 Bath type ที่ห้องนอนเล็กจะมีช่องแสงขนาดไม่ใหญ่นัก ฉะนั้นห้องนี้ก็จะดีกว่าเรื่องช่องแสงมาก ๆ ซึ่งเป็นข้อดีของห้องแนวกว้างแบบนี้
Duplex Type
ห้องสุดท้ายนี้เป็นห้องสุดพิเศษมีไม่มากนัก แต่พิเศษจริง ๆเพราะเป็นห้อง แบบ 2 ชั้น แล้วเป็นห้องแบบ Duplex แท้ ๆ ไม่ใช่ Loft เวลาเขาจดทะเบียนก็จดเป็นแบบ 2 ชั้น ไม่ใช่จดชั้นเดียวแล้วมาแบ่งครึ่งเป็นชั้นลอย ฉะนั้นสามารถเข้าออกได้ 2 ชั้นเลยครับ
ห้องนี้รูปทรงจะเป็น 4 เปลี่ยมจัตตุรัส เปิดประตูเข้ามาจะเป็นโซนครัว และห้องโถงอเนกประสงค์ ที่สามารถจัดห้องนั่งเล่นและส่วนรับประทานอาหาร โดยห้องนี้จะมีห้องน้ำอยู่ชั้นล่างนะครับ มีแค่ที่อาบน้ำแบบยืนไม่มีอ่างอาบน้ำซึ่งห้องหรูขนาดนี้น่าจะมีนะโดยห้องน้ำจะกินพื้นที่เข้าไปใต้บันได
บันไดห้องนี้ใหญ่มาก จะใหญ่ไปไหน ใหญ่เท่า ๆ กับที่บ้านผมเลย บันไดเป็นเรื่องเป็นราวไม่ใช่บันไดวน ๆ ซึ่งแบบนี่ทำให้ขึ้นชั้น 2 สะดวกกว่า
พื้นที่ชั้น 2 จะเป็นพื้นที่ของห้องนอน ซึ่งเป็นพื้นที่ครึ่งหนึ่งของชั้นล่าง โดยจะมีลักษณะ Double Space 1/4 ของพื้นที่ชั้นล่าง ห้องนี้มีระเบียงด้วยนะแต่จะอยู่เฉพาะชั้นล่างเท่านั้น
สรุปนะครับ
ถ้าเป็นคนที่เดินทางบ่อยผมว่าที่นี่ก็ดีเดินทางง่าย ทั้งรถไฟฟ้า ทั้งรถยนต์ โดดเด่นเรื่องสถานที่ใกล้เคียงมาก ห้างมีเยอะมาก และเป็นทำเลทีดีในอนาคตแน่นอน สำหรับห้องนั้นจะเป็นแนวหน้ากว้าง แต่ผมมีข้อสังเกตคือ ไม่มีห้อง Type ไหนที่แยกเป็นห้องครัวโดยเฉพาะ ถ้าหากมีความเป็นไปได้ในการกั้นครัว จะมีห้อง Studio เท่านั้นที่ทำได้ ถ้าชอบทำอาหารหนัก ๆ อาจจะไม่เหมาะนัก ถึงแม้มีที่ดูดควันก็ตามเถอะ เรื่องสาธารณูปโภคเป็นอีกจุดเด่นนึงที่ทำให้คุณอาจจะอยากอยู่ติดคอนโดมากขึ้น ส่วนใครชอบ Shopping ห้างรอบ ๆ นี้มีหลายแบบ สำหรับรูปลักษณ์อาคารดูสวยงาม มองแต่ไกล ดูเหมือนยานอวกาศมาก ถ้าเป็นคนที่ LifeSyle ทันสมัยผมว่าที่นี่ก็เหมาะครับ
โปรพิเศษ
11 – 13 กย นี้พบกันงาน Urban Pulse ยูนิตราคาพิเศษ พร้อมลุ้นทอง 5 บาททุกวัน
แจ้ง Code : IDEO001 จะรับส่วนลดเพิ่มสูงสุด 50000 บาท
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม add line@ :
หากสนใจข้อมูลเพิ่มเติมดูได้ที่